วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผี คืออะไร

เวลาพูดถึงผีขึ้นมาทีไรแต่ละคนคงคิดถึงสิ่งที่มีรูปร่างตั้งแต่โปร่งใสจนถึงที่รูปร่างอย่างมนุษย์แต่มีความน่ากลัวและมีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ บางครั้งก็อาจจะทำร้ายมนุษย์อย่างพวกเราด้วย แต่ในความจริงแล้วมุมมองของมนุษย์ที่มีต่อผีจะแตกต่างกันไปตามยุคสมัยหรือตามควาทเชื่อแต่ละพื้นที่แต่โดยรวมๆแล้วมีทั้งที่เป็นแง่บวกและลบ กล่าวคือในแง่บวกจะมองว่าผีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยให้ความคุ้มครองคนหรือธรรมชาติบนโลก ผีประเภทนี้จะถูกสักการะด้วยความเคารพ แต่ถ้าเป็นมุมมองด้านลบ จะมองว่าผีเป็นสิ่งที่น่ากลัว ชอบหลอกหลอนทำร้ายผู้คนและจะถูกเคารพเพราะความกลัวไปจนถึงการป้องกันไม่ให้ผีตนนั้นมาทำร้ายตนยังไงล่ะ

ความเชื่อเรื่องผีในยุคสังคมล่าสัตว์
ดูเหมือนว่าความเชื่อเรื่องผีจะอยู่คู่กับมนุษย์มานานแล้วล่ะนะ ตั้งแต่สมัยมนุษย์ยังไม่มีภาษาเขียน ดำรงชีพ
ด้วยการล่าสัตว์และเก็บหาของป่า ซึ่งอยู่ราวๆ 500000-4500 ปีมาแล้วความเชื่อเรื่องผีของคนในสมัยนั้น
อยู่ในรูปแบบของจิตวิญญานที่มีอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติ เช่น จิตวิญญาณที่อยู่ในต้นไม้ หิน หรือแม้แต่ปรากฎการณ์ธรรมชาติอย่างเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า เป็นต้น รวมไปถึงวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งก็คือวิญญาณของบรรพบุรุษนั่นเอง









วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มีคำถามเกี่ยวกับบราซิล

1.ประเทศบราซิลเขาห้ามทำอะไร
ก.ห้ามทำมือ ok
ข.ห้ามกินกาแฟ
ค.ห้ามปลูกแตงโม

2.เม เดส คูล ป้า แปลว่าอะไร
ก.ขอโทษ
ข.ได้โปรด
ค.ฉัน

3.ดอกไม้ประจำชาติบราซิลคือดอกอะไร
ก.ดอกกุหลาบ
ข.ดอกกล้วยไม้
ค.ดอกตะเบเหลือง

4.ตำรวจที่เกาะมาราโจใช้อะไรเป็นพาหนะ
ก.ม้า
ข.ควาย
ค.แกะ

4.แมงมุมบราซิลมีชื่อว่าอะไร
ก.ทารันตูร่า
ข.แมงมุมกล้วย
ค.บึ้ง

5.เทศการที่ยิ่งใหญ่ของบราซิลชื่อว่าอะไร
ก.คาร์นิวัล
ข.ปามะเขือเทศ
ค.กินเจ

6.ศิลปะการต่อสู้ของบราซิลชื่อว่า
ก.มวย
ข.คาโปเอร่า
ค.กังฟู

7.ป่าของบราซิลมีชื่อว่าอะไร
ก.ป่าสัก
ข.ป่าหิมพานต์
ค.ป่าอะเมซอน












เฉลย
1.ก.
2.ก.
3.ค.
4.ข.
5.ก.
6.ข.
7.ค.

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

10 อันดับ กระดาษแปลกไม่เหมือนใคร

วันนี้ขอเสนอ "10 อันดับกระดาษโน๊ตเท่ห์ๆ" เห็นแล้วอยากเขียนอะไรขึ้นมาในทันที เพราะออกแบบได้เก๋มากๆ

10. Read My Lips Sticky Notes

เป็นโน๊ตที่เหมาะกับคุณผู้หญิงที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมาเลยนะเนี่ย


9. SIMBook Notepad

ออกแบบให้เหมือนกับ SIM มือถือ

8. Talk to the hand sticky notes

ทำออกมาในรูปแบบของมือ แปลกแหวกแนวดีครับ

7. Fruit Memo Pad

มันจะเหมือนอะไรขนาดนั้น เกือบจะกินแล้วนะเนี่ย

6. Murder Ink

แนวสุดๆเลยกับเจ้ากระดาษโน็ตสุดแนว มีพร้อมปากกาโชกเลือด และเจ้ากระดาษโน็ตเป็นรูปร่างคน และจะมีรูให้เสียบปากกา

5. Clever Memo Block Sticky Note Pad

ถ้าไม่บอกว่าเป็นกระดาษโน็ตบอกตรงๆว่าผมก็คิดว่ามันเป็นท่อนไม้มากกว่า


4. Disk-it Sticky Notes

ทำออกมาในรูป Disk ขนาด 1:1 เหมือนมากๆ

3. Balding Memo Pad

ใช้มากๆ หัวล้านกันเลยทีเดียว


2. AquaNotes Waterproof Notepad

กระดาษโน็ตกันน้ำ เวลามีไอเดีย หรือ นึกอะไรออก ทีนี้เหละ จะได้จดได้ โดยไม่ต้องกลัวเปียกซะที


1. Ipad โน๊ต

เห็นช่วงนี้ฮิตกันจริงๆ มองไปทางไหนก็จิ้มๆกัน ถือกระดาษโน็ตอันนี้ก็เหมือนถือ ipad เลย ขนาด 1:1 เลยนะ เนี่ย


"ไอ้เท่ง" ติดท็อป 10 สุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่ของโลก แห่งปี 2009

เรื่อง"ไอ้เท่ง" ติดท็อป 10 สุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่ของโลก แห่งปี 2009 นี้ ผมได้อ่านเจอใน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งเขียนไว้เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 คิดว่าเป็ความรู้ที่มีประโยชน์โดยเฉพาะ "ไอ้เท่ง" ซึ่งพบอยู่ในบริเวณป่าชายเลน ที่อ่าวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเรานี้เอง นอกจากนั้นนักดำน้ำอย่างพวกเราก็ยังเคยปลาบางชนิดที่ระบุไว้ เช่น ปลากบไซเซเดลิกา (Psychedelic frogfish) เป็นต้น เลยขอนุญาตคัดลอกนำมาเก็บไว้ในบล็อกนี้ เพื่อจะได้ช่วยเผยแพร่โดยตรงไปอีกทางหนึ่ง

สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลกที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 10 สุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่แห่งปี 2009 (ภาพจาก IISE)

นานาชาติยก "ไอ้เท่ง" ทากทะเลชนิดใหม่ของโลก ที่พบในไทยให้ติด 1 ใน 10 สุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่แห่งปี 2009 พร้อมกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงยักษ์ในฟิลิปปินส์ แมงมุมสีทองจากมาดากัสการ์ จากหลายพันสปีชีส์ที่มีรายงานการค้นพบในปีเดียวกัน

สถาบันนานาชาติเพื่อการสำรวจสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ หรือไอไอเอสอี (International Institute for Species Exploration: IISE) มหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต (Arizona State University) สหรัฐอเมริกา และคณะกรรมการนักอนุกรมวิธานนานาชาติ ไดัคัดเลือกสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่จากทั่วโลกกว่าหลายพันสปีชีส์ให้เหลือเพียง 10 สปีชีส์ เพื่อขึ้นบัญชีสุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่แห่งปี 2009 ซึ่งได้มีการประกาศผลการคัดเลือกไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพพอดี และมีสปีชีส์ใหม่ที่พบในไทยได้ติดอันดับโลกด้วย

"คณะกรรมการตัดสินแต่ละคนมีอิสระในการคัดเลือกและกำหนดเกณฑ์การตัดสินของตัวเองจากคุณลักษณะที่แปลกใหม่หรือความจริงที่น่าประหลาดใจ รวมไปถึงชื่ออันแปลกประหลาดของสปีชีส์นั้นๆ" เควนติน วีลเลอร์ (Quentin Wheeler) ผู้อำนวยการสถาบันไอไอเอสอี และนักกีฏวิทยาจากสถาบันชีววิทยาศาสตร์ (School of Life Sciences) เผยไว้ในไลฟ์ไซน์ด็อตคอม

ทั้งนี้ การจัดอันดับ 10 สุดยอดการค้นพบสปีชีส์ใหม่แห่งปี 2009 ในปีนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นมี "ทากทะเล" ชนิดใหม่ของโลก ที่ค้นพบในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย โดยสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ทั้ง 10 สปีชีส์ มีดังนี้ (ไม่เรียงอันดับ)

แมงมุมสีทองสปีชีส์ใหม่ที่พบบนเกาะมาดาร์กัสการ์ เป็นแมงมุมสีทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และสามารถถักทอใยแมงมุมได้ใหญ่กว่า 1 เมตร (ภาพจาก IISE)

1. แมงมุมสีทองของโคแมค (Komac's golden orb spider) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เนฟิลา โคมาชิ (Nephila komaci) เป็นสปีชีส์แรกในสกุลเนฟิลาที่ถูกกล่าวขานถึงมาตั้งแต่เมื่อปี 1879 แต่เพิ่งจำแนกได้ว่าเป็นแมงมุมสปีชีส์ใหม่ตามหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และได้รับการตีพิมพ์รายงานการค้นพบเมื่อปี 2009 โดย เอ็ม คุนต์เนอร์ (M. Kuntner) นักวิจัยของสถาบันชีววิทยาแห่งวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์สโลวีเนียน (Institute of Biology of the Slovenian Academy of Sciences and Arts) และ โจนาธาน คอดดิงตัน (Jonathan Coddington) นักวิทยาศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสมิธโซเนียน (Smithsonian's National Museum of Natural History)

แมงมุมชนิดนี้สามารถถักทอใยแมงมุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ใหญ่กว่า 1 เมตร โดยที่แมงมุมตัวเมียที่สร้างใยขึ้นมานั้นเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาวประมาณ 3.8-4.0 เซนติเมตรเท่านั้น ขณะที่แมงมุมตัวผู้มีขนาดเพียง 0.8-09 เซนติเมตร หรือเล็กกว่าราว 5 เท่า มีถิ่นอาศัยอยู่ในมาดากัสการ์ ซึ่งคุนต์เนอร์ตั้งชื่อสปีชีส์ให้ว่า โคมาชิ เพื่อรำลึกถึงแอนเดรจ โคแมค (Andrej Komac) นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่เป็นเพื่อนรักที่สุดของเขาที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในระหว่างที่พวกเขากำลังศึกษาวิจัยแมงมุมชนิดนี้

ปลาแดร็กคูลา ตัวเล็กจิ๋ว แต่มีเขี้ยวยาวคล้ายค้างคาวดูดเลือดในตำนาน (ภาพจาก IISE)

2. ปลาแดร็กคูลา (Dracula fish) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า แดนิโอเนลลา แดร็กคูลา (Danionella dracula) เป็นปลาน้ำจืดที่พบในแม่น้ำ Sha Du Zup รัฐคะฉิ่น สหภาพพม่า ตัวผู้มีเขี้ยวยาวแหลมคมคล้ายสุนัขหรือค้างคาวดูดเลือดในตำนาน และนี่ยังเป็นการรายงานการค้นพบอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายฟัน (oral teeth-like structures) ของสัตว์ในวงศ์ไซพรินิเด (Cyprinidae) หรือวงศ์ปลาตะเพียน ซึ่งเป็นวงศ์ของปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ฟองน้ำเพชฌฆาต ฟองน้ำสปีชีส์ใหม่ที่มีโครงสร้างแตกต่างจากฟองน้ำชนิดอื่นๆ (ภาพจาก IISE)

3. ฟองน้ำเพชฌฆาต (killer sponge) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คอนโดรคลาเดีย (เมลิเดอร์มา) เทอร์บิฟอร์มิส [Chondrocladia (Meliiderma) turbiformis] อยู่ในวงศ์คลาโดไรซิเด (Cladorhizidae) เป็นวงศ์ฟองน้ำในทะเลลึกที่กินสัตว์เป็นอาหาร มีความหลากหลายสูง พบในทะเลเปิดทั่วไป โดยเฉพาะในมหาสมุทรแปซิฟิก พบครั้งแรกในประเทศนิวซีแลนด์ มีลักษณะพิเศษคือโครงสร้างส่วนของสปิคูลไม่เหมือนฟองน้ำชนิดอื่น (เป็นแบบ trochirhabd spicule)

"ไอ้เท่ง" ทากทะเลสปีชีส์ใหม่ของโลกพบที่ป่าชายเลนในปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีตัวสีดำและหน้าตาละม้ายคล้ายกับ "ไอ้เท่ง" ตัวละครในหนังตะลุงของปักษ์ใต้บ้านเรา (ภาพจาก IISE)

4. ไอ้เท่ง (Aiteng) เป็นทากทะเลสปีชีส์ใหม่และวงศ์ใหม่ของโลกด้วย โดยจัดอยู่ในวงศ์ไอเทงกิเด (Aitengidae) ถูกค้นพบเมื่อปี 2009 บริเวณร่องน้ำในป่าชายเลนที่อ่าวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่นำโดย ดร. ซี สเวนเนน (Dr. C.Swennen) นักวิจัยจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และนายสมศักดิ์ บัวทิพย์ นักวิทยาศาสตร์ จากแผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ไอ้เท่งมีขนาดประมาณ 6-17 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีดำ กินแมลงในระยะดักแด้เป็นอาหาร ซึ่งแตกต่างจากทากทะเลวงศ์อื่นๆ ที่มักกินสาหร่ายเป็นอาหาร สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ คล้ายกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั่วๆไป ซึ่งความพิเศษนี้พบได้น้อยมากในทากทะเลที่มีการค้นพบหรือมีการศึกษาอยู่แล้วในปัจจุบัน และทีมวิจัยได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้ว่า ไอเทง เอเตอร์ (Aiteng ater) ซึ่งชื่อสกุล Aiteng ตั้งตามจากชื่อตัวหนังตะลุงของปักษ์ใต้ที่ชื่อ "ไอ้เท่ง" ที่มีลักษณะตัวสีดำและมีตาคล้ายกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ส่วนชื่อสปีชีส์ ater มาจากภาษาลาติน หมายถึง สีดำ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

ตัวระเบิดเขียว หนอนทะเลชนิดใหม่ สร้างระเบิดเรืองแสงสีเขียวได้ไว้ป้องกันตัวเอง (ภาพจาก IISE)

5. ระเบิดเขียว (Green bombers) พบที่อ่าวมอนเตอเรย์ (Monterey Bay) มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า สวิมา บอมบิวิริดิส (Swima bombiviridis) เป็นหนอนทะเลชนิดหนึ่งที่สามารถทิ้งระเบิดเรืองแสงสีเขียวที่ดัดแปลงมาจากอวัยวะส่วนเหงือกเพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรูคู่อาฆาต

ปลากบไซเดลิกา ปลากบสปีชีส์ใหม่ หน้าแบนราบ มีสีสันลวดลายชวนเวียนหัว (ภาพจาก IISE)

6. ปลากบไซเซเดลิกา (Psychedelic frogfish) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ฮิสทิโอฟไรน์ ไซเซเดลิกา (Histiophryne psychedelica) ซึ่งเป็นปลากบที่มีรูปลักษณ์อันน่าพิศวงงงงวยที่ดูแล้วชวนประสาทหลอน และมีใบหน้าแบนราบแตกต่างจากปลากบชนิดอื่นๆ พบครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเซีย

ปลาไฟฟ้าที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เป็นต้นแบบศึกษาการสร้างกระแสไฟฟ้าในร่างกายของสิ่งมีชีวิต (ภาพจาก IISE)

7. ปลาไฟฟ้า (Electric fish หรือ Omars' banded knifefish) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า จิมโนตัส โอมาโรรัม (Gymnotus omarorum) พบในประเทศอุรุกวัยซึ่งตั้งชื่อตามของ โอมาร์ มาคาดาร์ (Omar Macadar) และโอมาร์ ทรูจิลโล-เคนอซ (Omar Trujillo-Cenoz) สองนักวิทยาศาสตร์ผู้ริเริ่มศึกษาการสร้างกระแสไฟฟ้าของปลาในสกุลจิมโนตัส ซึ่งปลาสปีชีส์นี้ถูกใช้เป็นต้นแบบในการศึกษาเกี่ยวกับสรีรวิทยาและการสื่อสารด้วยกระแสไฟฟ้ามาเป็นเวลาหลายสิบปี โดยก่อนหน้านั้นนักวิทยาศาสตร์ในอุรุกวัยเคยอ้างผิดว่าเป็นปลาสปีชีส์ จิมโนตัส คาราโป (Gymnotus carapo)

หม้อข้าวหม้อแกงลิงของแอทเทนเบอเรอห์ เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ใหญ่ที่สุดและใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (ภาพจาก IISE)
8. หม้อข้าวหม้อแกงลิงของแอทเทนเบอเรอห์ (Attenborough's Pitcher) ซึ่งเป็นพืชกินแมลงในกลุ่มหม้อข้าวหม้อแกงลิงสปีชีส์ใหม่ และที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประมาณ 30x16 เซนติเมตร หรือประมาณลูกอเมริกันฟุตบอล พบบนยอดเขาวิคตอเรีย (Mount Victoria) บนเกาะพาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เนเพนธีส แอทเทนเบอเรอห์อี (Nepenthes attenboroughii) ตั้งตามชื่อของเซอร์เดวิด แอทเทนเบอเรอห์ (Sir David Attenborough) นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษและผู้นำเสนอข่าวสารความรู้ด้านธรรมชาติวิทยาผ่านสื่อโทรทัศน์ของอังกฤษมาเป็นเวลาหลายสิบปี และเป็นพืชถิ่นเดียวที่คณะกรรมการมีความเห็นว่าพืชสปีชีส์ใหม่ชนิดนี้ควรได้รับการขึ้นบัญชีเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งด้วย

หัวมันแองโกนา พบบนเกาะมาดากัสการ์ มีลักษณะแปลกประหลาดเป็นพวงคล้ายนิ้วมือ จัดเป็นพืชอีกชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (ภาพจาก IISE)
9. หัวมันประหลาดแองโกนา (Angona) พบบนเกาะมาดากัสการ์ เป็นหัวมันที่กินได้ มีลักษณะเป็นพวงคล้ายนิ้วมือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ไดออสโคเรีย ออเรนจีอานา (Dioscorea orangeana) และจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เพราะถูกประชาชนเก็บเกี่ยวไปเป็นอาหารจำนวนมากโดยที่ไม่ได้มีการอนุรักษ์ถิ่นกำเนิดเอาไว้

เห็ดฟัลลิก ลักษณะละม้ายคล้ายกับอวัยวะเพศชาย (ภาพจาก IISE)
10. เห็ดฟัลลิก (Phallic mushroom) เป็นเห็ดสปีชีส์ใหม่ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายอวัยวะเพศชาย มีขนาดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร พบบนเกาะเซาตูเม (São Tome) ในแอฟริกา ได้รับการตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ฟัลลัส ดรูเวสซี (Phallus drewesii) เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.โรเบิร์ต ดรูเวส (Dr. Robert Drewes) นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งแคลิฟอร์เนีย (California Academy of Sciences) ผู้อุทิศตนให้กับการศึกษาความความหลากหลายทางชีวภาพในแอฟริกาเป็นเวลามากกว่า 30 ปี

อะไรแปลกๆ









10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม

10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 10 ไข่นกกระจอกเทศ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่าขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกต เห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาวซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มากและ บริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเล ประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่(หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจาก ทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศโดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนก กระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว
10 ไข่นกกระจอกเทศ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่าขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกต เห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาวซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มากและ บริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเล ประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่(หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจาก ทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศโดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนก กระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 9 ต้นหว้า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหล ออกมาอย่างขาดสายเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนาแต่หลังจากทำ งานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่ง เป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ ดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอนและเมื่อข่าว แพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำ เพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบาง ส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่าจะ ต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้า ที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอม ให้ตนเองตัดทิ้ง เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตรมีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำ หยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำ จะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่ บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะ นี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ไม่ได้เกิดจากความเศร้า เสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด
9 ต้นหว้า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหล ออกมาอย่างขาดสายเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนาแต่หลังจากทำ งานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่ง เป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ ดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอนและเมื่อข่าว แพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำ เพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบาง ส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่าจะ ต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้า ที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอม ให้ตนเองตัดทิ้ง เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตรมีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำ หยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำ จะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่ บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะ นี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ไม่ได้เกิดจากความเศร้า เสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 8 ควาย บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบ ไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???)แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูก ควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรกตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไป ฝังดินไว้ในนาของตัวเองชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอา แป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าอาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาด นี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบ ไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด
8 ควาย บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบ ไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???)แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูก ควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรกตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไป ฝังดินไว้ในนาของตัวเองชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอา แป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าอาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาด นี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบ ไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 7 เห็ดเขาเหม็น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะ คล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาด ใหญ่ 3 ตัวในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3ตัวเป็น**เมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ ได้ฝันอะไรต่อไปอีกจึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็นตนจึงได้นำ ดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัว และชุมชน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม ของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือจะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูด แมลงให้มาตอมซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่น ได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือบางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolusหรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์
7 เห็ดเขาเหม็น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะ คล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาด ใหญ่ 3 ตัวในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3ตัวเป็น**เมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ ได้ฝันอะไรต่อไปอีกจึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็นตนจึงได้นำ ดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัว และชุมชน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม ของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือจะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูด แมลงให้มาตอมซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่น ได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือบางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolusหรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 6 ปลาจระเข้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงา คล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอดเมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลาย สภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชา ที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้างวันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมา หยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหารโดยส่วนมาก ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมา เลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหาย หรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้
6 ปลาจระเข้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงา คล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอดเมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลาย สภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชา ที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้างวันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมา หยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหารโดยส่วนมาก ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมา เลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหาย หรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 5 ต้นบุก ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้น มาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตรซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่มแต่ถ้ามองจากด้านบนจะ คล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลข ท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำ มาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ ประดับ
5 ต้นบุก ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้น มาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตรซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่มแต่ถ้ามองจากด้านบนจะ คล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลข ท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำ มาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ ประดับ
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 4 จิ้งจก ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่ง เกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่ง เช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่าง ง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตรนอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจก ด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจบางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช. เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ อะไรเนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มี ผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็น จำนวนมาก- อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptileเชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าว ไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด
4 จิ้งจก ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่ง เกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่ง เช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่าง ง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตรนอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจก ด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจบางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช. เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ อะไรเนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มี ผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็น จำนวนมาก- อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptileเชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าว ไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 3 เสาอาคาร เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็นมารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็น เป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสาวิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีต เพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออก มาได้เพียงบางส่วนจากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดัง เดิมและฉาบปูนปิดทับแต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรง กลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุดลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสา ต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติด ที่ต้นเสาเพื่อขอหวยนอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็น เครื่องเซ่นไหว้สักการะ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและ ได้คำอธิบายว่าโครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริม เหล็กเป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตรซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหล ไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อน การเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีตถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆเช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบ จะไม่อนุมัติให้เทปูนจึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายใน เสาเพียง 35เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆอยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย
3 เสาอาคาร เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็นมารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็น เป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสาวิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีต เพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออก มาได้เพียงบางส่วนจากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดัง เดิมและฉาบปูนปิดทับแต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรง กลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุดลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสา ต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติด ที่ต้นเสาเพื่อขอหวยนอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็น เครื่องเซ่นไหว้สักการะ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและ ได้คำอธิบายว่าโครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริม เหล็กเป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตรซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหล ไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อน การเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีตถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆเช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบ จะไม่อนุมัติให้เทปูนจึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายใน เสาเพียง 35เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆอยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 2 แผ่นเจลลดไข้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเมื่อพายุสงบลงเจ้า ของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหูมีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชาเชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล)จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไป คลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมากทั้งนี้ชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทง หวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้น นั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯจึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจาก ชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการและหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ ก็ถึงกับขาดตลาดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมา ย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆเป็นที่สนุกสนานกัน
2 แผ่นเจลลดไข้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเมื่อพายุสงบลงเจ้า ของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหูมีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชาเชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล)จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไป คลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมากทั้งนี้ชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทง หวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้น นั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯจึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจาก ชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการและหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ ก็ถึงกับขาดตลาดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมา ย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆเป็นที่สนุกสนานกัน
10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ (ขอเลขเด็ด) ยังจำข่าวเหล่านี้ได้ใหม : 1 น้ำท่อส้วม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้าน หลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมา ให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำ ซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่าไม่ สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ยายก็หายไปแล้วยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรค ในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษา โรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอ ตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูป เทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่ อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อ ขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลาชาวบ้านที่ นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศเมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดง ปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศบ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบ ตัวจนพื้นดินแห้งซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจเมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อ เก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมาเมื่อขุดตรวจสอบไปอีกจึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติด กันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปใน ส้วมเมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำ ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที
1 น้ำท่อส้วม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้าน หลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมา ให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำ ซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่าไม่ สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ยายก็หายไปแล้วยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรค ในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษา โรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอ ตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูป เทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่ อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อ ขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลาชาวบ้านที่ นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศเมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดง ปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศบ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบ ตัวจนพื้นดินแห้งซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจเมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อ เก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมาเมื่อขุดตรวจสอบไปอีกจึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติด กันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปใน ส้วมเมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำ ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที

มาดูปลาทะเลน้ำลึกกัน

ปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) หรือ Caulophryne jordani เป็น ปลาน้ำลึก ในตระกูล Anglerfish ปลาปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) มีสี่งที่แปลก และโดดเด่นกว่า ปลาในตระกูล Anglerfish ทั่วไปคือ พวกมันไม่มีหงอนเรืองแสงบนหัว ที่ใช้สำหรับล่อเหยือในที่มืด และทั่วทั้งร่างมีครีบยาว คล้ายพัด

ปลาจงอยปากดำ หางหอยทากทะเล (Blacksnout seasnail )
ลำตัวสีขาวซีด บริเวณจงอยปากมีสีดำ ส่วนหางขมวดเรียวเล็กแหลมคล้ายปลายก้นหอยทากทะเล q*014

ชื่อสามัญ : Glowing sucker octopus (ปลาหมึกยักษ์เรืองแสง)
-------------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Stauroteuthis Syrtensis
แหล่งที่พบ : Eastern USA, North Atlantic Ocean
ระดับความลึก : +500 ถึง +4000 เมตร (เขตชุกชุม +1500 ถึง +2500 เมตร)
ขนาด : มากกว่า 50 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : ขณะว่ายน้ำขยายพองลำตัวบาน คล้ายกางร่มออก ปุ่มดูด (Sucker)
ที่อยู่ตามแนวเส้นเล็ก ชันตั้งขึ้นเหมือนหัวลูกศร เหนือผิวแนวเส้นแขน (หนวด)
บางครั้งชักหดกลับเข้าไป เป็นการแสดงอาการตกใจ ด้วยการเปล่งแสงสีแดง
จากลักษณะของ ชีวเปล่งแสง (Bioluminescent) และเป็นสัตว์มีเพศผู้-เพศเมีย

นี่คือปลา spookfish คะ
ชื่อสามัญ : Binocular fish (ปลากล้องสองตา) หรือ Spook fish (ปลาผี)
----------------------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Winteria telescopa
แหล่งที่พบ : Eastern Atlantic: Gulf of Guinea, Western Pacific: Japan,
Australia,New Zealand, Tropical Indian Ocean
ระดับความลึก : +400 ถึง +2500 เมตร (เขตชุกชุม +500 ถึง +700 เมตร)
ขนาด : 15-20 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : ลำตัวสีน้ำเงินเข้ม โดยสะท้อนแสงเป็นสีเงิน เคยสำรวจพบครั้งแรก
วัดขนาดดวงตาได้กว้างถึง 9.1 เซนติเมตร ลักษณะ เหมือนกล้องส่องทางไกล
แบบ Binocular (กล้องสองตา)

ชื่อสามัญ : ไม่ปรากฎ (จัดอยู่ในประเภท Siphonophores)
-------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Marrus orthocanna
แหล่งที่พบ :
ระดับความลึก : +400 ถึง +3000 เมตร
ขนาด : 40 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : Siphonophores เป็นกลุ่มสัตว์ ปะการังและแมงกระพรุน (ไม่มีกระ-
ดูกสันหลัง) มีรวมกว่า 170 สายพันธ์ เคยสำรวจพบความยาวถึง 40 เมตร แต่เล็ก
เรียวบาง ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนวุ้น (Gelatinous material)

ในทะเลลึก มักมีสีส้มดำเข้ม มีความอ่อนแอ แตกหักง่าย และโปร่งแสงมองเห็น
ภายในได้ ถือว่าเป็น Bioluminescent (ชีวเปล่งแสง) โดยเมื่อถูกรบกวนจะเปล่ง
แสงสีเขียวและน้ำเงิน แหล่งอยู่อาศัยบริเวณผิวทะเลลึกที่สงบนิ่ง คอยใช้หนวด
จับสัตว์น้ำขนาดเล็กกินเป็นอาหา

ชื่อสามัญ : Deep sea spider (แมงมุมทะเลลึก)
--------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Munnopsis
แหล่งที่พบ : North Atlantic Ocean
ระดับความลึก : +900 ถึง +3000 เมตร
ขนาด : ลำตัว 1-2 เซนติเมตร หนวดยาว 15 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : สิ่งมีชีวิตบนพื้นดินก้าวขา บนพื้นดินไปแบบ 2 มิติ เพื่อเปิดอากาศ
แต่การเดินท่ามกลางน้ำรอบทิศ เป็นการก้าวขาแบบ 3 มิติ เพื่อเป็นการเปิดน้ำ
จึงเป็นกลไกที่ยากมาก ต่อการเดินท่ามกลางน้ำ (ซึ่งไม่ใช่การว่าย) โดยเฉพาะ
แมงมุมทะเลลึก ที่มีขายาวกว่าตัว 10-15 เท่า

ชื่อสามัญ : Footballfish (ปลาลูกหนัง หรือ ปลาลูกฟุตบอล)
--------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Himantolophidae
แหล่งที่พบ : Atlantic, Indian, Pacific Ocean
ระดับความลึก : +1000 ถึง +4000 เมตร
ขนาด : 45 เซนติเมตรขึ้นไป สำหรับเพศเมีย

ข้อสังเกต : ลักษณะรูปร่าง ตัวทรงกลมเพศเมีย อาจมีขนาดถึง 2 ฟุต ส่วนเพศผู้
มีสัดส่วนเฉลี่ยเล็กกว่าเล็กน้อย เพศเมียโตเต็มวัย ส่วนหัวจะมีระยางค์งอกยื่น
ออกมา โดยส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อซึ่งมีลักษณะเป็นวุ้น ส่วนปลายเป็นลูกกลมและ
จากลูกกลมจะเป็นกระดูก (ก้าง) ที่แข็งแรง เป็นหนามแหลมๆ ต่อออกไปอีก
ส่วนเพศผู้จะไม่มีลักษณะดังกล่าว ส่วนปากของเพศเมียจะกว้างใหญ่ และมุมปาก
เฉียงเฉ โดยทั้งสองเพศมีสีเหมือนกันคือน้ำตาลแดง ตลอดชีวิต


ชื่อสามัญ : ไม่ปรากฎ
--------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ :
แหล่งที่พบ :
ระดับความลึก : +1200 ถึง +1800 เมตร
ขนาด : 3-25 เซนติเมตร

แต่ก็สวยดีเนาะ

ชื่อสามัญ : Big Red (แมงกระพรุนแดงใหญ่)
---------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Tiburonia granrojo
แหล่งที่พบ : Pacific Ocean off California, Hawaiian Islands and, Gulf of
California
ระดับความลึก : +650 ถึง +1500 เมตร
ขนาด : 1 เมตร

ข้อสังเกต : เป็นประเภทแมงกระพรุน สามารถขยายตัวได้กว่า 1 เมตร โดยแท้
จริงมิใช่แมงกระพรุนพันธ์ใหม่ แต่แตกต่างเพราะได้กำหนด ตระกูลย่อยใหม่
(New subfamily) ด้วยลักษณะพิเศษ ขนาดใหญ่ มีสีแดง และไม่มีหนวดเหมือน
แมงกระพรุนทั่วไปที่เคยพบ โดยใช้แขน (4-6 ชุด) ไว้คอยจับเหยื่อเป็นอาหาร


ชื่อสามัญ : Dumbo octopus (ปลาหมึกการ์ตูน)
-------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Grimpoteuthis
แหล่งที่พบ :
ระดับความลึก : +300 ถึง +500 เมตร
ขนาด : 1.5 เมตร

ข้อสังเกต : มีหูยื่นใหญ่ออกมาจากหัว เหมือนตัวการ์ตูนของ Walt Disney's ชื่อ
Dumbo (ช้าง) และมีความสามารถเปลี่ยนสี ชั้นใต้ผิวให้เป็นสีแดงได้ เพราะผิว
โปร่งแสง

ชื่อสามัญ : Telescope octopus (ปลาหมึกยักษ์ตาส่องกล้อง)
-----------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Amphitretus pelagicus
แหล่งที่พบ : เขตร้อน เช่น Indian, Pacific Oceans
ระดับความลึก : +100 ถึง +2000 เมตร
ขนาด : 30 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : ลำตัวใส มองเห็นภายใน มีแขน (หนวด) 8 เส้น ดวงตาตาคล้ายหลอด
ท่อโผล่ออกมา ดูเสมือนคล้ายกำลังส่องกล้องทางไกล และกลอกกลิ้งไปมาได้


วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง

ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง (อังกฤษ: LaFlora, the Princess Academy) เป็นหนังสือการ์ตูนที่แทรกเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมและวัฒนธรรมนานาชาติ มี 3 ชุด คือ "ลา ฟลอร่า" ภาคปกติ , "ลา ฟลอร่า ภาค ประเทศฉันสุดยอด" และ "ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม" โดยในแต่ละเล่มจะมีเนื้อหาและตัวละครที่ต่างกัน[1][2] จากความนิยมอย่างแพร่หลาย และความโดดเด่นของตัวละคร ส่งผลให้ทางผู้ผลิตได้จัดทำในรูปแบบของเกมกระดานในเวลาต่อมา[3]

เนื้อหา

[ซ่อน]

[แก้]เนื้อเรื่องย่อ

ทิวา เด็กหญิงชาวไทยผู้ห่างไกลความเป็นกุลสตรี ได้รับคำเชิญให้ไปเรียนที่สถาบันสตรี ลา ฟลอร่า ที่ตั้งอยู่ใบนเกาะลึกลับในทะเลเมดิเตอเรเนียนทิวาจำใจรับคำเชิญและเดินทางไปเรียน เพราะทิวาต้องการไปสืบหาข่าวของแม่ที่ได้หายสาปสูญไป[4] ที่โรงเรียน ทิวาได้พบเรื่องวุ่นวายและอุปสรรคมากมาย และได้พบมิตรภาพจากเพื่อนๆในโรงเรียน[5]

[แก้]ตัวละคร

ตัวละครหลัก

[แก้]ตัวละครหลัก

ธงชาติของไทย ทิวา พุดพิชญา
สาวไทยผู้ห่างไกลจากคำว่าเจ้าหญิง เธอมาตามหาแม่ ที่ได้รับเบาะแสว่าอยู่ใน ลา ฟลอร่า พร้อมด้วยเจ้านิล แมวไทยคู่หู[6] ข้อมูลส่วนตัว สูง 142 เซนติเมตร สัญชาติไทย กรุ๊ปเลือด O [7]
Flag of the People's Republic of China หยาง เหมยฮัว
สาวจีนที่มีวิชากังฟูติดตัว[8] มีนิสัยตรงไปตรงมา เป็นทายาทภัตตาคารจีนแห่งตระกูลหยาง เข้าขาได้ดีกับทิวา ถ้าพบเพื่อนถูกรังแกจะเข้าไปช่วยทันที เวลาพูดคุยกับเพื่อนมักลงท้ายด้วยคำว่า "น่อ" ข้อมูลส่วนตัว สูง 146 เซนติเมตร สัญชาติจีน กรุ๊ปเลือด B [9]
ธงชาติของญี่ปุ่น ฟูจิวาระ ยูริ
สาวญี่ปุ่นจอมซุ่มซ่าม มีพ่อเป็น ยากูซ่า เป็นคนขี้กลัว แต่พยายามที่จะเข้มแข็งเหมือนพ่อ[10] เวลาพูดคุยกับเพื่อนมักลงท้ายด้วยคำว่า "เจ้าค่ะ" ข้อมูลส่วนตัว สูง 144 เซนติเมตร สัญชาติญี่ปุ่น กรุ๊ปเลือด O [9]
Flag of the United Kingdom โรซารี่ เกรย์
สาวอังกฤษมาดเท่ในชุดพั้งก์ เป็นอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์ เรียนเก่ง แต่ก็ชอบของน่ารักๆ[11] ข้อมูลส่วนตัว สูง 155 เซนติเมตร สัญชาติอังกฤษ กรุ๊ปเลือด AB [9]
ธงชาติของฝรั่งเศส นาซิสซ่า เลเฟบเวร์
สาวฝรั่งเศสผู้ชัดเจนในตัวตนแห่งความเป็นเจ้าหญิง จึงไม่ชอบทิวา แม้ภายหลังจะยอมรับมิตรภาพที่ทิวาและเพื่อนๆหยิบยื่นให้ แต่ก็ยังกลายเป็นศัตรูของพวกทิวาอยู่ดี เวลามีคนมีเล่านิทานให้นาซิสซ่าฟัง นาซิสซ่าก็จะเกิดอาการอยากนอนทันที ข้อมูลส่วนตัว สูง 152 เซนติเมตร สัญชาติฝรั่งเศส[12] กรุ๊ปเลือด A [9]

[แก้]ตัวละครสมทบ

ธงชาติของไทย ไอริณ พุดพิชญา
เป็นแม่ของทิวา เป็นเพื่อนของพ่อมาริโอน่า เป็นนักล่าสมบัติ ซึ่งเป็นฝาแฝดกับแอริณ เป็นคนที่องค์กรฟักทองทมิฬต้องการตัว เพื่อหาภาพเขียนลับของลา ฟลอร่า เนื่องจากเธอเป็นผู้รักษาภาพเขียนลับในลา ฟลอร่า และในภายหลัง เธอก็เข้ามาเป็นครูกิจกรรมพิเศษ ในลา ฟลอร่าอีกด้วย
ธงชาติของไทย ศิลา พุดพิชญา
เป็นพ่อของทิวา เป็นหมอที่รักษาได้ทุกโรค เป็นคนต้นคิดให้ทิวาไปเรียน ลา ฟลอร่า เพื่อตามหาเบาะแสของแม่
ธงชาติของฝรั่งเศส คาร่า เลเฟบเวร์
เป็นแม่ของนาซิสซ่า เป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส เป็นศิษย์เก่าลา ฟลอร่า และเป็นลูกศิษย์ของครูมารี กีมาร์
ครูมารี กีมาร์
ครูประจำคลาสพริ้นเซส ห้อง E เจ้าระเบียบ เป็นคนยึดมั่นในกรอบ และกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด
ครูโลลิต้า แฟชั่น
ครูประจำคลาสพริ้นเซส ห้อง B ชอบโพสท่าเหมือนนางแบบและแต่งตัวตามแฟชั่นอยู่เสมอ
ครูวินเซนต์ วิลเลี่ยม
คุณครูหนุ่มหน้าตาดี ประจำคลาสพริ้นเซส ห้อง A ประจำวิชาศิลปะ และมีหน้าที่เป็นพิธีกรประจำโรงเรียน
ครูฌาแนตต์ ไวท์
ครูสอนวิชาพละประจำคลาสพริ้นเซส ห้อง C ที่มีร่างกายเป็นผู้ชาย แต่จิตใจเป็นผู้หญิง และชอบนักเรียนหญิงอยู่หลายคน มีพลังปราณที่ฝ่ามือในระดับดีเยี่ยม
ธงชาติของกรีซ ครูฮีโร่โดตุส
ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ เป็นทายาทอันดับที่ 27 ของ"เฮโรโดตุส" นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก
ธงชาติของอิตาลี ผอ.ไนติงเกล
ผอ.โรงเรียนลาฟลอร่ารุ่นที่ 49 มักจะไม่ค่อยอยู่โรงเรียนเท่าใดนัก ถึงแม้จะอายุมากแล้ว ก็ชอบแต่งตัวเป็นวัยรุ่นเสมอ เป็นคนที่รู้เบาะแสของแม่ทิวามากที่สุด
ธงชาติของญี่ปุ่น คิคุโยะ
ตุ๊กตาฮินะ เพื่อนสมัยเด็กของยูริ[13] ซึ่งเธอทำมาจากผมคนจริงๆ ในความเชื่อของญี่ปุ่น หากตุ๊กตาฮินะทำมาจากผมคนจริงๆ ตุ๊กตาตัวนั้นจะมีชีวิตขึ้นมา ถึงจะน่ากลัวแต่ก็มีนิสัยแอบจิตชอบจินตนาการลามกๆเกี่ยวกับตัวยูริอยู่เนืองๆ
ธงชาติของสเปน เอสเมอรันด้า ตาปัสด้า
นักเรียนจากสเปน คลาสพริ้นเซสห้องห้อง A ลูกของพ่อครัวประจำราชวงศ์สเปน เชี่ยวชาญในการทำขนมหวานมาก เป็นคู่ปรับโดยตรงของนาซิสซ่า[14] มีนิสัยประหลาดตรงที่เวลาควบคุมตัวเองไม่ได้ (โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนาซิสซ่า)มักจะเอาแป้งทำขนมมาตีเล่นอยู่เสมอ กลัวกระทิงเป็นอย่างมาก เป็นตัวละครที่ได้รับการออกแบบโดย กาญจนศิริ ธรรมดุษฎี1
ธงชาติของอิตาลี มาริโอน่า รินโอรีน
นักเรียนจากอิตาลี คลาสพริ้นเซสห้อง C แม้จะไม่มีแขนขวาและตาข้างซ้ายก็ตาม แต่เธอก็เป็นถึงทายาทของมาเฟียในอิตาลี[15] มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงแม้จะเป็นคนพิการ และยังหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเองเป็นอย่างมาก ถึงขนาดยอมถอดแขนเทียมของตัวเองออกเพื่อช่วยเพื่อนในยามคับขันได้ เป็นตัวละครที่ได้รับการออกแบบโดย กรวิกา อุดมชัยรัตน์1
ธงชาติของเนปาล มีนา อรันตี
นักเรียนจากเนปาล คลาสพริ้นเซสห้อง D ชอบการผจญภัยและหาสมบัติเป็นอย่างมาก พกแส้ติดตัวไว้ตลอด มักโดนหาว่าเป็นจอมเพี้ยน เป็นตัวละครที่ได้รับการออกแบบโดย บุษรินทร์ ชินวัง[16]
ธงชาติของเกาหลีใต้ คิม กียุล
คิม กียุล (เกาหลี: 김기율) นักเรียนชายจากเกาหลี อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ คลาสพริ้นซ์ห้อง A เป็นคนจริงจัง เคร่งขรึม ยิ้มยาก ในตอนแรก จะรู้สึกว่าเป็นคนหยิ่งเห็นแก่ตัว แต่จริงๆแล้วเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือ[17] แต่ติดตรงพูดไม่ค่อยเก่ง เป็นหนึ่งในราชาทั้ง 5 และเป็นประธานนักเรียน
Flag of the United States คริสโตเฟอร์ ริชาร์ด
นักเรียนชายจากอเมริกา อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ คลาสพริ้นซ์ห้อง A เป็นพวกชอบฮีโร่[9] จึงชอบทำตัวเหมือนพวกฮีโร่มาก ดูเหมือนไม่จริงจังกับชีวิต แต่จริงๆ แล้ว เขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือการทำให้โลกเกิดสันติสุขให้ได้ เป็นหนึ่งในราชาทั้ง 5
ธงชาติของอิตาลี ลีโอนาร์โด ดันเต้
นักเรียนชายจากอิตาลี อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ คลาสพริ้นซ์ห้อง A เป็นพวกชอบยูเอฟโอกับมนุษย์ต่างดาวมาก[9] เพราะคิดว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นหนึ่งในราชาทั้ง 5
ธงชาติของอียิปต์ ฮอรัส ปโตเลมี
นักเรียนชายจากอียิปต์ อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ คลาสพริ้นซ์ห้อง A เป็นคนสุขุม เรียบร้อย เป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีความประณีต ละเอียดอ่อนในการตัดเย็บผ้า[9] ซึ่งตระกูลของฮอรัสทำอาชีพนี่มากว่า 2,000 ปี เป็นหนึ่งในราชาทั้ง 5
ธงชาติของรัสเซีย อเล็กเซ คอนสแตนติน
นักเรียนชายจากรัสเซีย อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ คลาสพริ้นซ์ห้อง A ชอบทำตัวลึกลับ หน้าตารูปร่างจะคล้ายกับผู้หญิง[9] ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดจนต้องหาผ้ามาคลุมปิดบังเอาไว้ แต่หากเสียใจหรือน้อยใจเพียงเล็กน้อย ก็จะขี้แยไม่ต่างจากเด็กผู้หญิง เป็นหนึ่งในราชาทั้ง 5
ธงชาติของกรีซ เพลโต
นักเรียนชายจากกรีซ อยู่โรงเรียนเจ้าชายโนอาห์ เป็นนักเล่านิทาน เวลาเล่านิทานสามารถเปลี่ยนหน้าและบุคลิกให้เป็นตัวละครนั้นๆได้ ปรากฏตัวในลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน มหัศจรรย์แรลลี่นิทานรอบโลก
ธงชาติของอินเดีย อินทิรา ศากยะ
นักเรียนจากอินเดีย ห้อง A เป็นประธานนักเรียนของคลาสพริ้นเซส เป็นคนเข้มงวดในกฎระเบียบของโรงเรียน เกลียดการแบ่งชั้นวรรณะในอินเดีย อนาคตของเธอคือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงของอินเดีย
ธงชาติของอิตาลี พี่น้องอันโตนิโอ
ลูกน้องของมาริโอน่าซึ่งคอยอารักขามาริโอน่าทุกฝีก้าว ปลอมตัวเข้ามาในลาฟลอร่าและดูเหมือนจะมีมาริโอน่าคนเดียวที่ไม่รู้ตัว
ธงชาติของบราซิล อาเดรียน่า เด คาซซิอา แซมไปโอ
นักเรียนจากบราซิล ห้อง A เป็นแชมป์คาโปเอร่า[18] เป็นคนขี้อาย ซึ่งสิ่งที่เธอต้องการคือตราประจำตระกูลหยางของเหมยฮัว เพราะจะได้ไปศึกษาศิลปะป้องกันตัวจากปรมาจารย์สาขาต่างๆ ทั่วโลก
ธงชาติของนิวซีแลนด์ มิเนียร่า ซานาลิน
นักเรียนลาฟลอร่า คลาสพรินซ์เซส ลูกสาวเจ้าของฟาร์มแกะที่นิวซีแลนด์ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของโรซารี่ ถ้ามีโอกาสมักจะติดตามโรซารี่ไปทุกที่ จึงถูกคนอื่นมองว่าเป็นลูกแหง่ และมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองตามแบบเด็กๆ คอยกันท่าไม่ให้คนอื่นเข้ามาใกล้ โรซารี่ซึ่งเธอเรียกว่า ท่านพี่ โรส มีสัตว์เลี้ยงประจำตัวคือแกะ ซึ่งอยู่บนหัวของเธอ ปรากฏตัวในลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศาสตร์การแพทย์หรรษากับสปาอลวน
ธงชาติของสิงคโปร์ ลี นาริน
นักเรียนลาฟลอร่า คลาสพรินซ์เซส ห้อง B มีปลาโลมาชื่อ ลิลลี่ มาจากประเทศจีนแต่มาตั้งรกรากอยู่ที่สิงคโปร์กับพ่อแม่ของเธอ เป็นคนเชี่ยวชาญกีฬาทางนํ้าและการดำนํ้าเป็นอย่างมาก เมื่ออยู่ในนํ้าเธอจะเป็นคล่องแคล่วว่องไว แต่พอมาอยู่บนบกแห้งๆจะกลายเป็นคนเฉื่อยชาขึ้นมาทันที ถึงขนาดขาดนํ้าเป็นอยู่ไม่ได้ เธอมักจะพกขวดนํ้าติดตัวรวมถึงมีอุปกรณ์ดำนํ้าติดมาประจำ ปรากฏตัวในลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศึกประชันจ้าวแห่งการละเล่นรอบโลก
ธงชาติของมาเลเซีย ราณี มอธี
นักเรียนลาฟลอร่า คลาสพรินซ์เซส เป็นคนอารมณ์ดี พ่อเป็นเจ้าของอุทยานที่มาเลเซีย ธอจึงมีสิทธิรู้เรื่องเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่ามากกว่าใคร พกกล้องติดตัวเป็นประจำเพื่อถ่ายภาพป่าไม้และสัตว์ป่า ถ้าเธอเจอคนที่ทำลายป่าไม้และสัตว์ป่าราณีผู้อารมณ์ดี จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที
Flag of the United KingdomFlag of the People's Republic of China เกรซ แอลลัน
นักเรียนลูกครึ่งอังกฤษจีนห้อง A เป็นเพื่อนสนิทเอสเมอรันด้า เป็นคนที่ต่อต้านนาซิสซ่าอย่างลับๆ เพื่อหวังจะล้างแค้นให้เอสเมอรันด้า
Flag of the People's Republic of China หยาง เหมยหลิน
นักเรียนสาวจากจีน เรียนอยู่คลาสเคาท์เทส เป็นพี่สาวของเหมยฮัว ความสามารถพิเศษของเธอคือ กังฟูและตอบปัญหา เป็นผู้สืบลับๆตอนที่ ทดสอบเหมยฮัว ว่าจะป้องกันตราประจำตระกูลหยางได้หรือไม่
ธงชาติของไทย แอริณ พุดพิชญา
เป็นน้าของทิวา ปลอมตัวเป็นครูห้องพยาบาล เป็นคนของรัฐบาลโลก (CIA) เป็นฝาแฝดกับไอริณ แม่ของทิวา
หมายเหตุ:

^ ครั้งหนึ่ง ทางอีคิวพลัสซึ่งเป็นผู้จัดทำ ได้จัดให้มีการออกแบบตัวละครโดยผู้อ่านอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นเยาวชนชาวไทยทั้งสิ้น[19]

[แก้]ตัวละครใน ลา ฟลอร่า ประเทศฉันสุดยอด

ธงชาติของไทย อาทิตย์ ไม้งาม
ลูกพี่ลูกน้องของทิวาชอบการแสดงละคร เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า ไทย สุดยอด
Flag of the United Kingdom ไลโอเนล ออกัสตัส
ขี่ม้าขาวชื่อว่า"แอนโธนี่"คอยอารักขาโรซารี่ทุกฝีก้าว มีหัวคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะมักมีไอเดียพิศดารเกี่ยวกับตัวของแอนโธนี่อยู่เรื่อยๆ ถึงอย่างนั้นก็มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่สูงตามแบบฉบับชาวอังกฤษ เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า อังกฤษ สุดยอด
ธงชาติของญี่ปุ่น นากายาม่า ซารุ
ลูกน้องของพ่อยูริ มีหน้าตาคล้ายลิง รักษาหน้าที่ในการเป็นบอดี้การ์ดอย่างดีเยี่ยม เชื่อฟังคำสั่งยูริทุกคำ เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า ญี่ปุ่น สุดยอด
Flag of the People's Republic of China จาง หยันหลง
คู่แข่งของเหมยฮัว ที่ต้องการจะเป็นยอดฝีมือทางด้านวรยุทธ์เหมือนกัน แต่ออกแนวรั่วไปบางครั้ง เป็นคนไม่ทันตามยุคสมัย เพราะชอบเก็บตัวอยู่แต่ในป่าเขา เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า จีน สุดยอด
ธงชาติของสเปน เปโดร รามอส
ลูกศิษย์ของพ่อเอสเมอรันด้าชอบทำเมนูอาหารแปลกใหม่ เป็นคนอารมณ์ดี เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า สเปน สุดยอด
ธงชาติของฝรั่งเศส เชวาล บลองค์
คนรับใช้คนสนิทของนาซิสซ่า มีความรู้รอบตัวดี และมักหาทางแกล้ง(แบบไม่ตั้งใจ)นาซิสซ่าอยู่เนืองๆ แต่ก็ยังเคารพในตัวของนาซิสซ่า เกลียดหอยทากเป็นที่สุด เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า ฝรั่งเศส สุดยอด
ธงชาติของอิตาลี อัลแบร์โต้ รอซซี่
นักสืบที่คอยจับผิดมาริโอน่า เป็นลูกของนักสืบที่เป็นคู่แข่งพ่อมาริโอน่า แต่มีสายตาที่สั้นอย่างมาก เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า อิตาลี สุดยอด
ธงชาติของเกาหลีใต้ คิม มุนอา
คิม มุนอา (เกาหลี: 김문아) น้องสาวข้างบ้านกียุล ทรงผมดำสั้นแค่ติ่งหู แต่เธอใส่วิกเพื่อปกปิดเอาไว้ เธอเลยทวงสัญญาที่กียุลเคยบอกไว้ว่า "ถ้าได้กลับเกาหลีอีกครั้งจะพาไปเที่ยวสวนสนุก" และชอบเรียกกียุลว่าโอปป้าด้วย (โอปป้าแปลว่าพี่ชาย) เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า เกาหลี สุดยอด
ธงชาติของอินเดีย กฤษณะ
เป็นคู่หมั้นของอินทิรา ชอบเล่นตลกกับอินทิราอยู่เสมอ ทั้งยังมีช้าง 1 เชือกเป็นน้องสาว ชื่อว่าภารตี เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า อินเดีย สุดยอด และยังเป็นนักเรียนโรงเรียนเจ้าชายโนอาห์อีกด้วย ปรากฏตัวใน ลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศึกประชันจ้าวแห่งการละเล่นรอบโลก
ธงชาติของเนปาล ปุนเย่ เตเลกต๊อด
ลูกหาบสุดอ่อนแอของนาซิสซ่า แต่ก็มีความมุ่งมั่นจะเป็นลูกหาบฝีมือดีอันดับต้นๆของโลก รู้จักกับ มีนา โดยบังเอิญ ตอนหลงอยู่บนเขา เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า เนปาล สุดยอด
ธงชาติของบราซิล ลูก้า เลวี่ คาโดโซ
เป็นเพื่อนสนิทกับ อาเดรียน่า มาตั้งแต่เด็ก มีความมั่นใจในตัวเองสูงโดยเฉพาะการเต้นในจังหวะแซมบ้า เป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมระดับ 5 ดาว และมีสัตว์เลี้ยงแปลกๆเลี้ยงเอาไว้ด้วย เป็นตัวละครใน ลาฟลอร่า บราซิล สุดยอด

[แก้]รายชื่อตอน

[แก้]ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง

  1. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ห้องลับกับเครื่องเรือนนานาชาติ
  2. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ปริศนา? แฟชั่นอังกฤษพิศวง[20]
  3. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศึกประลองอาหารไทยจีน[21][22]
  4. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ตุ๊กตานานาชาติกับเรื่องสยองขวัญใน ลา ฟลอร่า
  5. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน มหกรรมขนมหวาน ร้อยรสชาติระดับโลก
  6. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน เทศกาลหรรษากับกีฬาพิสดาร
  7. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ลีลาศอลหม่านกับการแสดงนานาชาติอลวน
  8. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน คฤหาสน์ป่วนกับแก๊งผีเฮี้ยน
  9. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศิลปะการต่อสู้กับประตูสู่ฝัน
  10. ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ตามรอยรหัสลับภาพเขียนบันลือโลก[23]

[แก้]ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ซีซั่น 2

  1. ลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน อลังการคอนเสิร์ตนานาชาติกับเครื่องดนตรีหรรษา
  2. ลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน มหัศจรรย์แรลลี่นิทานรอบโลก
  3. ลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศาสตร์การแพทย์หรรษากับสปาอลวน
  4. ลา ฟลอร่าฮันนี่แรลลี่ โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ตอน ศึกประชันจ้าวแห่งการละเล่นรอบโลก

[แก้]ลา ฟลอร่า ประเทศฉันสุดยอด

  • ลา ฟลอร่า อังกฤษ สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า ญี่ปุ่น สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า ไทย สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า จีน สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า ฝรั่งเศส สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า สเปน สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า อิตาลี สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า เกาหลี สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า อินเดีย สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า อเมริกา สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า เนปาล สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า รัสเซีย สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า บราซิล สุดยอด
  • ลา ฟลอร่า อียิปต์ สุดยอด (เร็วๆนี้)

[แก้]ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม

  • ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม ตอน ผจญภัยในแดนสยาม
  • ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม ตอน ท่องแดนอาทิตย์อุทัย